เครื่องพ่นหมอกในไซต์ก่อสร้าง ทางเลือกใหม่ในการจัดการฝุ่นที่ได้ผลจริงหรือ?

ท่ามกลางการขุด รื้อถอน ก่อสร้าง ไปจนถึงการขนย้ายวัสดุต่าง ๆ คนที่ทำงานหรืออยู่ใกล้ ๆ บริเวณไซต์ก่อสร้างย่อมต้องเผชิญกับปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะฝุ่นละอองที่ฟุ้งกระจายและความร้อนสะสมจากกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึง PM2.5 ที่ลอยมาจากทั่วทุกสารทิศและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เครื่องพ่นหมอกแรงดันสูงเลยกลายมาเป็นหนึ่งในวิธีลดมลพิษทางอากาศ และเป็นตัวช่วยหลักในการควบคุมฝุ่นบริเวณไซต์งานก่อสร้างที่หลายพื้นที่เริ่มเลือกใช้ ด้วยระบบที่สามารถพ่นละอองน้ำละเอียดขนาดประมาณ 5 ไมครอน ช่วยให้จับฝุ่นกลางอากาศให้ตกลงสู่พื้น ลดการสูดฝุ่นเข้าสู่ร่างกาย และยังช่วยลดอุณหภูมิรอบพื้นที่ได้อีกด้วย และที่สำคัญ ละอองหมอกจากเครื่องพ่นหมอกยังเบาบางมาก และไม่ทำให้พื้นลื่นหรือเปียก บทความนี้เลยอยากชวนทุกคนไปดูวิธีใช้เครื่องพ่นหมอกในไซต์งานก่อสร้างให้เห็นผลจริง ผ่าน 5 วิธีใช้งานง่าย ๆ ที่ทำตามได้แน่นอน

แนะนำ 5 วิธีใช้งานเครื่องพ่นหมอกเพื่อลดฝุ่นในไซต์ก่อสร้างอย่างเห็นผล

1. เลือกใช้เครื่องพ่นหมอกแรงดันสูงเพื่อควบคุมฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การเลือกเครื่องพ่นหมอกที่เหมาะสมเป็นพื้นฐานสำคัญของการควบคุมฝุ่น โดยควรเลือกใช้งานเครื่องพ่นหมอกแรงงานสูงเป็นหลักถึงจะสามารถพ่นละอองน้ำความละเอียดสูง (ประมาณ 5 ไมครอน) ที่สามารถดักจับฝุ่นต่าง ๆ และที่สำคัญต้องพิจารณาทั้งกำลัง แรงดัน ปริมาณน้ำที่ใช้ต่อชั่วโมง และความทนทานต่อสภาพการใช้งานจริง โดยเทียบกับขนาดพื้นที่ในไซต์งานก่อสร้างเป็นหลัก

2. ติดตั้งระบบพ่นหมอกในจุดที่มีฝุ่นฟุ้งกระจาย

ตำแหน่งที่ติดตั้งเครื่องพ่นหมอกมีผลอย่างมากต่อประสิทธิภาพการทำงาน ดังนั้นจึงควรติดตั้งในจุดที่มีฝุ่นมาก เช่น ทางเข้า-ออกที่มีรถวิ่งเข้าออก พื้นที่รื้อถอน และจุดทำงานที่เกิดฝุ่นบ่อย แต่ควรระวังและหลีกเลี่ยงการติดตั้งในจุดที่อยู่ใกล้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่กันน้ำ และต้องคำนึงถึงทิศทางลมด้วย เพื่อให้หมอกกระจายตัวได้ดี นอกจากนี้ยังควรระวังไม่ให้หมอกบดบังการมองเห็นหรือกระทบกับงานที่ต้องการความแห้ง เช่น งานเชื่อมหรืองานทาสี เป็นต้น

3. ปรับความสูงและระยะห่างของเครื่องพ่นหมอกให้เหมาะสม เน้นความครอบคลุมพื้นที่

การติดตั้งเครื่องพ่นหมอกในตำแหน่งที่สูงพอสมควรจะช่วยให้ละอองน้ำมีเวลาลอยตัวและจับฝุ่นในอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก่อนจะตกลงสู่พื้นโดยไม่ฟุ้งกระจายเกินจุดที่ต้องการ ส่วนระยะห่างระหว่างหัวพ่น ควรเว้นพอประมาณให้ละอองหมอกจากแต่ละจุดสามารถกระจายตัวมาบรรจบกันได้พอดี ไม่ทับซ้อนเกินไป และไม่ปล่อยให้เกิดช่องว่างจนฝุ่นเล็ดลอด ก็จะช่วยให้ครอบคลุมพื้นที่ได้ทั่วถึง ลดจุดอับที่มักสะสมฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4. ควบคุมปริมาณน้ำและระยะเวลาเปิด-ปิดเครื่องพ่นหมอกให้เหมาะกับสภาพฝุ่น

การปรับปริมาณน้ำและตั้งเวลาการพ่นให้เหมาะกับสภาพการทำงานในแต่ละช่วง จะช่วยลดการใช้น้ำและพลังงานโดยไม่จำเป็น เช่น ช่วงที่มีงานขุดหรืองานหนัก ควรเปิดพ่นต่อเนื่องเพื่อควบคุมฝุ่นให้ได้ผล ส่วนช่วงพักงานหรือช่วงที่ฝุ่นเบาลง ก็สามารถลดการพ่นลงได้ ถ้ามีระบบตรวจวัดความชื้นเข้ามาช่วย จะสามารถปรับการทำงานของเครื่องได้แบบอัตโนมัติและแม่นยำยิ่งขึ้น สำหรับใครที่กังวลเรื่องการดูแลระบบ ไม่ต้องห่วง เพราะเครื่องพ่นหมอกรุ่นใหม่หลายรุ่นมาพร้อมระบบตั้งเวลาเปิด-ปิดอัตโนมัติ ใช้งานสะดวก ไม่ต้องคอยควบคุมตลอดเวลา

5. หมั่นดูแลและบำรุงรักษาระบบต่าง ๆ ของเครื่องพ่นหมอกอย่างสม่ำเสมอ

ฝุ่นในไซต์อาจทำให้หัวพ่นหมอกอุดตันหรืออุปกรณ์อื่น ๆ ในระบบพ่นหมอกทำงานผิดปกติ ดังนั้นจึงควรตรวจสอบและทำความสะอาดเครื่องพ่นหมอกเป็นประจำ และอย่าลืมตรวจเช็กแรงดันน้ำ สภาพไส้กรอง และเปลี่ยนอะไหล่ตามระยะเวลาที่กำหนด พร้อมบันทึกข้อมูลการทำงานไว้เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพในระยะยาว ที่สำคัญ การฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ให้สามารถดูแลและแก้ปัญหาเบื้องต้นได้เองจะช่วยลดเวลาหยุดงานของระบบลงได้อย่างมาก

จะเห็นได้เลยว่าการนำเครื่องพ่นหมอกมาใช้งานอย่างมีระบบในไซต์งานก่อสร้าง ไม่เพียงช่วยลดปริมาณฝุ่นและปรับสภาพอากาศในไซต์ให้ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว ทั้งในแง่สุขภาพ ความปลอดภัย และภาพลักษณ์ขององค์กร

หากไซต์งานก่อสร้างใดสนใจติดตั้งระบบพ่นหมอกในการป้องกันและแก้ไข PM2.5 และฝุ่นต่าง ๆ จากพื้นที่ในไซต์งาน เลือก iSmartKool ยินดีให้คำปรึกษาเรื่องเครื่องพ่นหมอก เครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศ อุปกรณ์แต่งสวน เครื่องพ่นหมอกในสวน อุปกรณ์พ่นหมอก เครื่องพ่นหมอกในสวน อุปกรณ์ตกแต่งร้านอาหารสไตล์ธรรมชาติ เครื่องพ่นหมอกต้นไม้ อย่างระบบพ่นหมอก เครื่องพ่นหมอก หัวพ่นหมอกทองเหลือง ปั๊มพ่นหมอก ชุดพ่นหมอกแรงดันสูงครบวงจร มั่นใจในคุณภาพ ด้วยประสบการณ์การทำงานในด้านนี้มาเกือบ 20 ปี มีผลงานการันตีการติดตั้งชุดพ่นหมอกมาแล้วมากมาย สามารถดูผลงานเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ismartkool.com/

สอบถามรายละเอียดสินค้า และบริการ พร้อมรับสิทธิพิเศษ ได้ที่

โทร: 02-811-3898, 094-492-5666, 081-565-1999
อีเมล: info.ismartkool@gmail.com